ขาหมูพะโล้โบราณ: สูตรลับส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น หอมอร่อยกลมกล่อมถึงใจ
สวัสดีค่ะทุกคน! วันนี้เราจะมาเข้าครัวทำเมนูสุดคลาสสิกที่ใครๆ ก็หลงรัก นั่นก็คือ ขาหมูพะโล้โบราณ ค่ะ เมนูนี้เป็นมากกว่าอาหาร เพราะเป็นรสชาติความทรงจำที่หลายคนคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ด้วยกลิ่นหอมของเครื่องพะโล้และรสชาติหวานเค็มกลมกล่อมที่ลงตัว ทำให้ ขาหมูพะโล้โบราณ เป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คนเสมอมา
สูตร ขาหมูพะโล้โบราณ ที่เราจะมาแชร์กันในวันนี้ เป็นสูตรที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น รับรองว่าทำตามได้ง่าย แถมอร่อยเหมือนทานที่ร้านดังแน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดเข้าครัว หรือเชฟมืออาชีพ ก็สามารถทำ ขาหมูพะโล้โบราณ สูตรนี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมแล้วไปดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันเลยค่ะ!
ทำไมต้องเป็นสูตร ‘โบราณ’?
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องเน้นคำว่า ‘โบราณ’ ในชื่อเมนู ขาหมูพะโล้โบราณ ด้วย? เหตุผลก็คือ สูตรโบราณนั้นมักจะเน้นการใช้วัตถุดิบสดใหม่ และเครื่องเทศที่ครบเครื่อง ทำให้รสชาติมีความหอมลึกซึ้ง และมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากสูตรที่ปรับปรุงใหม่ๆ ค่ะ นอกจากนี้ สูตรโบราณยังมักจะใช้เวลาในการเคี่ยวที่นานกว่า เพื่อให้รสชาติของเครื่องพะโล้ซึมซาบเข้าเนื้อหมูอย่างเต็มที่ ทำให้ ขาหมูพะโล้โบราณ มีรสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และอร่อยกว่านั่นเอง
วัตถุดิบและส่วนผสม
ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทำ ขาหมูพะโล้โบราณ เรามาเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมให้พร้อมกันก่อนนะคะ เพื่อให้การทำอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น และได้รสชาติที่อร่อยลงตัวตามสูตรค่ะ
ส่วนผสมหลัก:
- ขาหมู (ขาหน้า หรือ ขาหลัง) 1 ขา (ประมาณ 1.5 – 2 กิโลกรัม)
- ไข่ไก่ หรือ ไข่เป็ดต้มสุก ปอกเปลือก 10 ฟอง
- เต้าหู้แข็ง (ชนิดขาว) 2 แผ่น หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
- รากผักชี 3 ราก
- กระเทียม 5 กลีบ
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- อบเชย 2-3 แท่ง
- โป๊ยกั๊ก 3-4 ดอก
- ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 3-4 ช้อนโต๊ะ (ปรับตามชอบ)
- ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ (เพื่อสีสัน)
- น้ำมันพืช เล็กน้อย (สำหรับผัด)
- น้ำเปล่า
เคล็ดลับการเลือกขาหมู:
การเลือกขาหมูที่ดีมีผลต่อรสชาติของ ขาหมูพะโล้โบราณ อย่างมากค่ะ ควรเลือกขาหมูที่มีเนื้อแน่น หนังสีชมพูสดใส ไม่มีกลิ่นเหม็น และมีมันแทรกในเนื้อพอประมาณ หากชอบแบบมีเอ็นเยอะ สามารถเลือกขาหลังได้ แต่ถ้าชอบเนื้อเยอะๆ ให้เลือกขาหน้าค่ะ ที่สำคัญคือต้องทำความสะอาดขาหมูให้ดีก่อนนำมาปรุงอาหาร
ขั้นตอนการทำ ‘ขาหมูพะโล้โบราณ’ อย่างละเอียด
เมื่อเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้ว เรามาเริ่มทำ ขาหมูพะโล้โบราณ ตามขั้นตอนดังนี้กันเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมขาหมู
- ล้างขาหมูให้สะอาด ขูดขนออกให้หมด (ถ้ามี)
- นำขาหมูไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 10-15 นาที เพื่อล้างสิ่งสกปรกและดับกลิ่นคาว จากนั้นตักขึ้นพักไว้
- ใช้มีดหรือส้อมจิ้มหนังขาหมูให้ทั่ว เพื่อให้หนังพองสวยงามเมื่อนำไปทอด
ขั้นตอนที่ 2: เตรียมเครื่องพะโล้
- โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดให้ละเอียด
ขั้นตอนที่ 3: ผัดเครื่องพะโล้
- ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย พอน้ำมันร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม
- ใส่ผงพะโล้ อบเชย และโป๊ยกั๊กลงไปผัดให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่ 4: เคี่ยวขาหมูพะโล้
- ใส่ขาหมูลงในหม้อ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากับเครื่องพะโล้
- เติมน้ำเปล่าให้ท่วมขาหมู
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำหวาน
- รอจนน้ำเดือด ลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่าขาหมูจะเปื่อยนุ่มตามต้องการ (ยิ่งเคี่ยวนานยิ่งอร่อย)
- ใส่ไข่ต้มและเต้าหู้แข็งลงไป เคี่ยวต่ออีกประมาณ 30 นาที เพื่อให้ไข่และเต้าหู้มีรสชาติ
ขั้นตอนที่ 5: จัดเสิร์ฟ
- ตัก ขาหมูพะโล้โบราณ ใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อความอร่อย
- หากต้องการให้ ขาหมูพะโล้โบราณ มีรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถเพิ่มเครื่องพะโล้ได้ตามชอบ เช่น ลูกผักชี หรือเม็ดผักชี
- การเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ เป็นเวลานาน จะช่วยให้ขาหมูเปื่อยนุ่มและมีรสชาติที่กลมกล่อม
- สามารถเพิ่มเห็ดหอมลงไปใน ขาหมูพะโล้โบราณ เพื่อเพิ่มรสชาติและความหอม
- สำหรับคนที่ชอบทานเผ็ด สามารถเพิ่มพริกขี้หนูลงไปใน ขาหมูพะโล้โบราณ ได้
- ขาหมูพะโล้โบราณ ที่เหลือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ และนำมาอุ่นทานได้ในวันถัดไป รสชาติจะยิ่งเข้มข้นขึ้น
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทาน ‘ขาหมูพะโล้โบราณ’
นอกจากรสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว ขาหมูพะโล้โบราณ ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ โดยเฉพาะคอลลาเจนในหนังหมู ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส นอกจากนี้ ยังมีโปรตีนจากเนื้อหมูและไข่ไก่ ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
สรุป
หวังว่าสูตร ขาหมูพะโล้โบราณ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ลองนำไปทำตามกันดู รับรองว่าคุณจะได้ลิ้มรส ขาหมูพะโล้โบราณ ที่อร่อย หอม กลมกล่อม เหมือนทานที่ร้านดังแน่นอนค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ!