ขนมรังผึ้ง เป็นขนมไทยโบราณที่ยังคงได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน ด้วยเนื้อสัมผัสเหนียวนุ่ม หอมกะทิสด ผสมผสานกับความหวานละมุนจากน้ำตาลมะพร้าว เหมาะสำหรับเป็นของว่างหรือทำขายสร้างรายได้
วัตถุดิบสำหรับทำขนมรังผึ้ง
ส่วนผสมหลัก
- แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
- กะทิสด 250 มิลลิลิตร (รังผึ้ง กะทิสด)
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- มะพร้าวอ่อนขูดฝอย 100 กรัม (รังผึ้ง มะพร้าวอ่อน)
- น้ำมันพืชสำหรับทาพิมพ์
วิธีทำขนมรังผึ้ง สูตรโบราณ
- ผสมแป้ง: ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งสาลีในชามผสม ใส่เกลือ น้ำตาลปี๊บ และกะทิสด คนให้เข้ากันจนเนียน
- เติมไข่: ตอกไข่ลงไป ตีให้เข้ากันกับแป้ง
- เพิ่มมะพร้าวอ่อน: ใส่มะพร้าวอ่อนขูดฝอยลงในส่วนผสม คนให้กระจายทั่ว
- อุ่นพิมพ์รังผึ้ง: ตั้งพิมพ์ขนมรังผึ้งบนเตา ทาน้ำมันพืชบางๆ เพื่อไม่ให้แป้งติด
- เทแป้งลงพิมพ์: ตักแป้งเทลงในพิมพ์ ใช้ไฟกลาง-อ่อน ปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที
- เสิร์ฟ: ยกขนมออกจากพิมพ์ เสิร์ฟร้อนๆ
สูตรรังผึ้งกรอบนอกนุ่มใน
สำหรับสูตรที่ต้องการความกรอบนอกนุ่มใน ให้ปรับปริมาณแป้งข้าวเจ้าเพิ่มขึ้นอีก 50 กรัม และลดกะทิสดลง 50 มิลลิลิตร เพื่อให้เนื้อแป้งมีความกรอบเมื่อสุก
สูตร รังผึ้งทำขาย
หากต้องการทำขาย ควรเน้นส่วนผสมคุณภาพดี เช่น ใช้น้ำตาลมะพร้าวแท้และกะทิสดจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- เพิ่มรสชาติ: ใส่ใบเตยหรือกลิ่นวานิลลาเพิ่มกลิ่นหอม
- แพ็กเกจจิ้ง: ใช้กล่องกระดาษหรือถุงใส พร้อมสติ๊กเกอร์แบรนด์
วา ฟ เฟิ ล กับ รังผึ้ง ต่างกัน ยัง ไง
- วาฟเฟิล: ขนมสัญชาติตะวันตก ทำจากแป้งที่ผสมกับเนยและนม มีรสชาติหอมเนย และมักใช้พิมพ์ที่มีลวดลายเฉพาะ
- รังผึ้ง: ขนมไทย ใช้แป้งข้าวเจ้าและกะทิสด มีกลิ่นหอมของกะทิและน้ำตาลมะพร้าว
เคล็ดลับความอร่อย
- กะทิสด: ใช้กะทิสดใหม่จะช่วยเพิ่มความหอมมันให้กับขนม
- พิมพ์ร้อน: ตรวจสอบให้พิมพ์ร้อนสม่ำเสมอก่อนเทแป้ง เพื่อป้องกันแป้งติดพิมพ์
- เสิร์ฟทันที: ขนมรังผึ้งจะอร่อยที่สุดเมื่อยังร้อน