• Home
  • อาหารไทย
  • บลูเบอร์รี่ชีสพาย: สูตรอร่อย ทำง่าย ได้ใจไปเต็มๆ!

บลูเบอร์รี่ชีสพาย: สูตรอร่อย ทำง่าย ได้ใจไปเต็มๆ!

บลูเบอร์รี่ชีสพาย: สูตรอร่อย ทำง่าย ได้ใจไปเต็มๆ!

ใครที่ชอบชีสพายและบลูเบอร์รี่ต้องห้ามพลาด! วันนี้เราจะมาแจกสูตร บลูเบอร์รี่ชีสพาย แบบโฮมเมด ทำง่าย อร่อยฟิน แถมยังสวยงามน่าทาน เหมาะสำหรับทำกินเองที่บ้าน หรือทำไปฝากเพื่อนๆ ก็รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอนค่ะ สูตรนี้เราปรับให้ง่ายขึ้น ไม่ต้องใช้เตาอบ ใครที่ไม่มีเตาอบก็ทำได้สบายๆ เลยค่ะ

ทำไมต้องบลูเบอร์รี่ชีสพาย?

บลูเบอร์รี่ชีสพาย ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยนะคะ บลูเบอร์รี่ยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตา และเสริมสร้างความจำ นอกจากนี้ การทำขนมเองที่บ้านยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อีกด้วยค่ะ ลองทำตามสูตรนี้ดูนะคะ รับรองว่าคุณจะหลงรัก บลูเบอร์รี่ชีสพาย โฮมเมดแน่นอน!

ส่วนผสมหลักที่ต้องเตรียม

ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทำ บลูเบอร์รี่ชีสพาย เรามาเตรียมส่วนผสมกันก่อนนะคะ ส่วนผสมเหล่านี้หาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปค่ะ

ส่วนผสมฐานพาย

  • แครกเกอร์ (เช่น Ritz หรือ Digestive) 250 กรัม
  • เนยละลาย 120 กรัม

ส่วนผสมครีมชีส

  • ครีมชีส (Philadelphia หรือ Mascarpone) 250 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 250 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม (ปรับได้ตามชอบ)
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสมหน้าบลูเบอร์รี่

  • บลูเบอร์รี่สด หรือแช่แข็ง 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 50 กรัม
  • น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  • แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ บลูเบอร์รี่ชีสพาย แบบละเอียด

มาถึงขั้นตอนสำคัญ! เราจะมาลงมือทำ บลูเบอร์รี่ชีสพาย แสนอร่อยของเรากันค่ะ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย!

ขั้นตอนที่ 1: ทำฐานพาย

  1. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด อาจจะใช้เครื่องบด หรือใส่ในถุงซิปล็อคแล้วใช้สากทุบก็ได้ค่ะ
  2. นำแครกเกอร์บดผสมกับเนยละลาย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. กรุส่วนผสมแครกเกอร์ลงในพิมพ์พาย (ขนาดประมาณ 7-8 นิ้ว) กดให้แน่นๆ
  4. นำไปแช่ตู้เย็นช่องฟรีสประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ฐานพายเซ็ตตัว

ขั้นตอนที่ 2: ทำครีมชีส

  1. ตีครีมชีสให้นิ่ม (ถ้าครีมชีสแช่เย็น ให้นำออกมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อน)
  2. ค่อยๆ ใส่วิปปิ้งครีมลงไปทีละน้อย ตีด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเข้ากันดี
  3. ใส่น้ำตาลไอซิ่ง น้ำมะนาว และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีต่อจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนที่ 3: ทำหน้าบลูเบอร์รี่

  1. นำบลูเบอร์รี่ น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ใส่หม้อ ตั้งไฟกลาง
  2. เคี่ยวจนบลูเบอร์รี่เริ่มนิ่มและมีน้ำออกมา
  3. ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วค่อยๆ เทลงในหม้อบลูเบอร์รี่
  4. เคี่ยวต่อจนส่วนผสมข้นขึ้น ปิดไฟ ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้ให้เย็น

ขั้นตอนที่ 4: ประกอบร่าง บลูเบอร์รี่ชีสพาย

  1. นำฐานพายออกจากตู้เย็น
  2. เทส่วนผสมครีมชีสลงในฐานพาย เกลี่ยให้ทั่ว
  3. นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา แช่ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน เพื่อให้ครีมชีสเซ็ตตัว
  4. เมื่อครีมชีสเซ็ตตัวแล้ว นำหน้าบลูเบอร์รี่ที่เย็นแล้ว ราดลงบนชีสพาย
  5. ตกแต่งด้วยบลูเบอร์รี่สดเพิ่มเติมตามชอบ
  6. นำ บลูเบอร์รี่ชีสพาย ไปแช่ตู้เย็นอีกครั้งก่อนเสิร์ฟ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น

เคล็ดลับความอร่อยที่ควรรู้

เพื่อให้ บลูเบอร์รี่ชีสพาย ของคุณอร่อยยิ่งขึ้น ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ

  • เลือกใช้ครีมชีสคุณภาพดี จะทำให้รสชาติของชีสพายอร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น
  • ถ้าชอบรสชาติหวานน้อย สามารถลดปริมาณน้ำตาลไอซิ่งลงได้
  • การแช่ บลูเบอร์รี่ชีสพาย ในตู้เย็นข้ามคืน จะทำให้เนื้อชีสพายเนียนและอร่อยยิ่งขึ้น
  • สามารถเพิ่มความหอมด้วยการใส่ผิวเลมอนขูดลงในส่วนผสมครีมชีสเล็กน้อย
  • สำหรับคนที่ชอบฐานพายกรอบๆ ให้นำฐานพายไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 5-7 นาทีก่อนที่จะใส่ครีมชีส

ไอเดียเพิ่มเติมสำหรับ บลูเบอร์รี่ชีสพาย

นอกจากสูตร บลูเบอร์รี่ชีสพาย แบบคลาสสิกแล้ว เรายังมีไอเดียเพิ่มเติมให้คุณลองนำไปปรับใช้ เพื่อสร้างสรรค์ บลูเบอร์รี่ชีสพาย ในแบบของคุณเองค่ะ

บลูเบอร์รี่ชีสพายแบบมินิ

ทำ บลูเบอร์รี่ชีสพาย ใส่ในถ้วยเล็กๆ หรือพิมพ์มัฟฟิน เหมาะสำหรับทำเป็นของว่างทานเล่น หรือเสิร์ฟในงานปาร์ตี้

บลูเบอร์รี่ชีสพายแบบอบ

สำหรับคนที่ชอบชีสพายเนื้อแน่นๆ ลองนำไปอบในเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-40 นาที

บลูเบอร์รี่ชีสพายแบบใส่ถั่ว

เพิ่มความกรุบกรอบด้วยการโรยถั่วอัลมอนด์สไลด์ หรือวอลนัทสับ บนหน้าบลูเบอร์รี่

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะกับสูตร บลูเบอร์รี่ชีสพาย ทำง่ายที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะลองทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าคุณจะได้ บลูเบอร์รี่ชีสพาย แสนอร่อยที่ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านแน่นอนค่ะ อย่าลืมแชร์สูตรนี้ให้เพื่อนๆ และครอบครัวของคุณด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ!

หัวข้อแนะนำ

สูตรอาหารยอดนิยม

หมวดหมู่ยอดนิยม

สูตรอาหาร
Scroll to Top