• Home
  • บทความ
  • ประวัติขนมบัวลอยเป็นมาอย่างไร ?

ประวัติขนมบัวลอยเป็นมาอย่างไร ?

ประวัติขนมบัวลอยเป็นมาอย่างไร ?

ขนมบัวลอยเป็นขนมไทยที่นิยมและอร่อยมาก มีประวัติและถิ่นกำเนิดที่น่าสนใจ:
1. ถิ่นกำเนิด : ขนมบัวลอยเริ่มรับรู้ในประเทศไทย แต่มีหลายที่อ้างถึงว่ามาจากวัฒนธรรมจีนโดยพานิชเช่นเดียวกันก็นิยมมาที่ไทยและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย.
2. ชื่อขนม : ชื่อขนมบัวลอยมาจากลักษณะของขนมที่คล้ายในลักษณะของเมล็ดบัวลอย (Lotus Seed) ที่มีเปลือกนอกแข็งแรงและเนื้อด้านในอ่อนนุ่ม
3. ส่วนประกอบ : ขนมบัวลอยทำจากแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมันเชื่อมผสมกับน้ำ มักมีสีขาวและรีดให้เป็นรูปกลมเล็ก ๆ เนื้อขนมบัวลอยจะเป็นเนื้ออ่อนเช่นเพียงสีมะม่วงหรือเพียงสีน้ำเงิน และมักจะห่อในน้ำและกินร่วมกับน้ำกะทิหวานหรือน้ำกะทิเผื่น
4. การบรรจุและการรับประทาน : ขนมบัวลอยบรรจุเป็นชุดหลายชิ้นในถุงหรือถาดและมักจะราดด้วยน้ำกะทิหวานหรือน้ำกะทิเผื่น และบางครั้งอาจมีไข่ทอดหรือลูกเข็มในชุดขนมนี้เพื่อเพิ่มรสชาติ
5. วันหยุดพิเศษ : ขนมบัวลอยมักนิยมรับประทานในงานวันหยุดพิเศษ เช่น งานสงกรานต์และวันเทศกาลหรืองานมหัศจรรย์ต่าง ๆ.
6. การเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม : ในปัจจุบันมีขนมบัวลอยที่เพิ่มสีสันเข้าไปในการราด หรือที่เรียกว่า “บัวลอยเข้น” ที่มีรสชาติหลากหลาย เพิ่มสีสันให้ขนมมีความสดใสและสวยงามมากยิ่งขึ้น

ขนมบัวลอยเป็นอาหารของประชาชนที่รักในอาหารไทยและเป็นขนมที่มีประวัติยาวนานและความนิยมที่ยังคงอยู่ไปจนถึงปัจจุบัน อันนี้เป็นหนึ่งในขนมไทยที่น่าลิ้มลองและพิเศษที่นิยมรับประทานในงานเฉลิมพระชนมบัวลอยเพื่อให้ขอพร และสนุกสนานกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในงานสังสรรค์ต่าง ๆ ในประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง.

Table of Contents

ขั้นตอนและวิธีทำขนมบัวลอย

ขนมบัวลอยเป็นขนมไทยที่ทำได้ง่ายและมีส่วนประกอบหลักคือเนื้อขนมบัวลอยและน้ำกะทิหวาน นี่คือขั้นตอนและวิธีทำขนมบัวลอย:

**ส่วนประกอบหลัก:**
– 200 กรัม แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมัน
– 100 มิลลิลิตร น้ำเปล่า
– 1/4 ช้อนชา สีน้ำเงินอาหาร (ถ้าต้องการ)
– 1/4 ช้อนชา น้ำอัดลม (ถ้าต้องการ)
– 100 กรัม น้ำเกลือ
– 250 กรัม น้ำเปล่า (สำหรับน้ำอาบขนม)
– 300 มิลลิลิตร น้ำกะทิหวาน (ควรใช้น้ำกะทิจริง)
– 200 กรัม น้ำตาลทราย
– 1/4 ช้อนชา น้ำมะขามเปียก (ถ้าต้องการ)

**ขั้นตอน:**
1. ทำขนมบัวลอย :
– ในชามใหญ่, ผสมแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมัน, น้ำเปล่า, สีน้ำเงินอาหาร (ถ้าต้องการ), น้ำอัดลม (ถ้าต้องการ), และน้ำเกลือให้เข้ากัน. ผสมจนเนื้อขนมบัวลอยเริ่มเกิดขึ้น.
– จัดลักษณะขนมเป็นลูกกลมเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 ซม. ใช้มือทำให้เป็นรูปกลม.
– นำน้ำให้เดือดในหม้อใหญ่. หมุนเนื้อขนมบัวลอยในน้ำให้เนื้อขนมลอยขึ้นจากด้านล่าง.
– จากนั้น, ลวกเนื้อขนมบัวลอยที่ลอยขึ้นในน้ำเดือดในประมาณ 1-2 นาที หรือจนขนมลอยเริ่มปรากฏรูปเหยียบบนผิว (ควรลวกพร้อมกันไม่เยอะเกิน 10-15 ลูกเพราะจะเปื้อนสี).
– ใช้สามารถทานขนมให้นำขนมบัวลอยที่ลวกในน้ำเย็นเพื่อหยุดกระบวนการเสร็จสิ้น.
2. ทำน้ำกะทิหวาน :
– ในหม้อเล็ก, ผสมน้ำกะทิ, น้ำตาลทราย, น้ำมะขามเปียก (ถ้าต้องการ) ในไฟอ่อน ๆ และคนให้เข้ากัน.
– กดเอาขนมบัวลอยที่ลวกแล้วมาล้วงลงไปในน้ำกะทิที่กำลังเดือด คนให้เข้ากัน.
3. เสิร์ฟขนมบัวลอย :
– สามารถเสิร์ฟขนมบัวลอยพร้อมกับน้ำกะทิหวานที่ร้อนหรือน้ำกะทิเผื่น.
– อาจใส่ลูกเข็มในขนมบัวลอยเพื่อตกแต่ง.

ขนมบัวลอยเสร็จแล้วสามารถรับประทานร้อนหรือเย็นได้ มีรสชาติหวานอ่อนจากน้ำกะทิและน้ำตาลทราย และเนื้อขนมบัวลอยนุ่มเยาว์ ขนมนี้เป็นทั้งอร่อยและสวยงาม และเป็นอาหารไทยที่นิยมในงานสาธารณสุขและวันสำคัญอื่น ๆ ในประเทศไทย.

ข่าวสารเพิ่มเติม

บ๊วยปั่นโค้ก เมนูซ่าเปรี้ยวเค็มหวานสุดจี๊ด สดชื่นสะใจในแก้วเดียว

สูตรบ๊วยปั่นโค้ก ทำง่ายๆ ที่บ้าน รสจี๊ดจ๊าดสะใจ หากคุณอยากลองทำ บ๊วยปั่นโค้ก ด้วยตัวเองที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ซับซ้อน ใช้เพียงวัตถุดิบพื้นฐานไม่กี่อย่าง ก็สามารถปั่นได้เครื่องดื่มสุดว้าวไว้จิบเองหรือเสิร์ฟเพื่อนฝูงได้แบบมือโปร…

มะยงชิดโซดา เครื่องดื่มรสเปรี้ยวหวานซ่า สดชื่นรับซัมเมอร์

สูตรมะยงชิดโซดา เครื่องดื่มเปรี้ยวซ่า หวานสดชื่น ทำง่ายที่บ้าน หากคุณอยากทำเครื่องดื่มสุดเก๋ที่ทั้งสดชื่นและมีประโยชน์ ลองทำตาม สูตรมะยงชิดโซดา ต่อไปนี้เลยครับ บอกเลยว่าไม่ยาก ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ…

สูตรนมสดมะม่วงปั่น วิธีทําให้อร่อย กลมกล่อมแบบทำเองที่บ้าน

นมสดมะม่วงปั่น ส่วนผสมและวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในบ้าน การเตรียม นมสดมะม่วงปั่น ส่วนผสม ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่เลือกมะม่วงสุกที่หอมหวาน (เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย…

Scroll to Top