ผัดพริกขิง เป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดหอมและกลมกล่อม โดดเด่นด้วยเครื่องแกงที่เข้มข้นและกลิ่นหอมของสมุนไพร วิธีการทำอาจดูเหมือนง่าย แต่การเลือกวัตถุดิบและการปรุงรสที่พอดีจะทำให้เมนูนี้อร่อยแบบต้นตำรับ
ผัดพริกขิง กับ ผัดพริกแกง ต่างกันอย่างไร?
ผัดพริกขิง ใช้ เครื่องแกงผัดพริกขิง ที่มีลักษณะเฉพาะ โดยไม่ใส่กะทิ ส่วน ผัดพริกแกง จะใส่กะทิเพิ่มความมันและมีความเข้มข้นมากกว่า
วัตถุดิบเครื่องแกงผัดพริกขิง
ส่วนผสมสำหรับเครื่องแกง
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด
- กระเทียม 5 กลีบ
- หอมแดง 5 หัว
- ข่า 1 ช้อนชา
- ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชี 1 ช้อนชา
- ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทํา เครื่องแกงผัดพริกขิง
- แช่พริกแห้งในน้ำจนพอนิ่ม
- โขลกพริกแห้งกับเกลือให้ละเอียด จากนั้นใส่กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ และผิวมะกรูดทีละน้อย
- ใส่กะปิเป็นลำดับสุดท้าย โขลกจนส่วนผสมละเอียด
วิธีทำ ผัดพริกขิง สูตรโบราณ
วัตถุดิบหลัก
- เนื้อหมูสับหรือหั่นบาง 200 กรัม (ผัดพริกขิงหมู)
- ถั่วฝักยาวหั่นท่อน 100 กรัม (ผัดพริกขิงถั่วฝักยาว)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอยสำหรับตกแต่ง
ขั้นตอน
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง
- ใส่ เครื่องแกงผัดพริกขิง ลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อหมู ผัดจนหมูสุก
- เติมน้ำตาลปี๊บและน้ำปลา ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
- ใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัดต่อจนสุก ตักใส่จานและตกแต่งด้วยใบมะกรูดซอย
ผัดพริกขิงไก่ และผัดพริกขิงกากหมู
ผัดพริกขิงไก่
ใช้เนื้อไก่หั่นชิ้นเล็กแทนหมู แล้วทำตามขั้นตอนเดียวกัน เพิ่มความหอมด้วยใบมะกรูดซอย
ผัดพริกขิงกากหมู
ใช้กากหมูเจียวใหม่ที่กรอบและหอม ผัดกับเครื่องแกงและปรุงรสตามชอบ
เคล็ดลับการทำผัดพริกขิงให้อร่อย
- เลือกเครื่องแกงสดใหม่: ใช้เครื่องแกงที่เพิ่งโขลกเพื่อกลิ่นหอมที่ชัดเจน
- ควบคุมความหวาน-เค็ม: ปรับน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาตามความชอบ
- ถั่วฝักยาวกรอบอร่อย: ลวกถั่วฝักยาวก่อนผัดเพื่อให้สีเขียวสดและเนื้อกรอบ