สูตรลับ! ปีกไก่ทอดหนังกรอบ อร่อยง่าย ทำเองได้ที่บ้าน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นักกินทุกคน! วันนี้เราจะมาเปิดครัว สอนทำเมนูยอดฮิตตลอดกาล นั่นก็คือ ปีกไก่ทอดหนังกรอบ นั่นเองค่ะ! ใครๆ ก็ชอบกินไก่ทอดใช่มั้ยคะ? แต่บางทีซื้อเขาก็กินแล้วไม่สะใจ หนังไม่กรอบอย่างที่คิด วันนี้เราเลยมีสูตรลับฉบับทำเองง่ายๆ ที่บ้านมาฝากกันค่ะ รับรองว่าทำตามได้แน่นอน หนังกรอบจริงอะไรจริง แถมรสชาติยังอร่อยถูกปากอีกด้วย ไปดูวิธีทำกันเลยดีกว่า!
ทำไมต้องปีกไก่ทอดหนังกรอบสูตรนี้?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องมาทำ ปีกไก่ทอดหนังกรอบ สูตรนี้ด้วย? บอกเลยว่าสูตรนี้เด็ดจริงค่ะ เพราะเราได้รวบรวมเคล็ดลับต่างๆ ที่ทำให้ไก่ทอดของเรานั้น:
- หนังกรอบนาน: ไม่ใช่กรอบแค่ตอนทอดเสร็จใหม่ๆ แต่กรอบยาวนานจนคำสุดท้าย
- เนื้อในชุ่มฉ่ำ: ไม่แห้งกระด้าง ทานแล้วนุ่มลิ้น
- รสชาติเข้มข้น: หมักเข้าเนื้อถึงรสชาติ ไม่จืดชืด
- ทำง่าย: ไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ หรือส่วนผสมที่หายาก
วัตถุดิบและส่วนผสม
ก่อนอื่นเรามาเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมกันก่อนเลยค่ะ รับรองว่าหาได้ง่ายๆ ในครัว หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านแน่นอน:
ส่วนผสมหลัก
- ปีกกลางไก่ 1 กิโลกรัม (เลือกที่สดใหม่)
ส่วนผสมสำหรับหมัก
- กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
- ผงปรุงรสไก่ ½ ช้อนโต๊ะ (หรือไม่ใส่ก็ได้)
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งทอดกรอบ ½ ถ้วยตวง
- น้ำเย็นจัด 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมสำหรับคลุก
- แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง
- แป้งข้าวโพด ½ ถ้วยตวง
- ผงปาปริก้า 1 ช้อนชา (optional สำหรับสีสันและกลิ่นหอม)
ขั้นตอนการทำ ปีกไก่ทอดหนังกรอบ
เมื่อเตรียมส่วนผสมพร้อมแล้ว เรามาเริ่มลงมือทำ ปีกไก่ทอดหนังกรอบ แสนอร่อยของเรากันเลยค่ะ:
ขั้นตอนที่ 1: หมักไก่
- ล้างปีกไก่ให้สะอาด ซับให้แห้งด้วยกระดาษทิชชูสำหรับทำครัว
- นำปีกไก่ใส่ชามผสม ใส่กระเทียมสับ พริกไทย เกลือ น้ำตาล ผงปรุงรส (ถ้าใช้) ซีอิ๊วขาว และน้ำมันหอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่แป้งทอดกรอบลงไป ตามด้วยน้ำเย็นจัด คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
- ปิดด้วยพลาสติกแรป หรือใส่กล่องที่มีฝาปิด นำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืนยิ่งดี เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อไก่
ขั้นตอนที่ 2: เตรียมแป้งสำหรับคลุก
- ในชามผสมอีกใบ ใส่แป้งทอดกรอบ แป้งข้าวโพด และผงปาปริก้า (ถ้าใช้) คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ขั้นตอนที่ 3: คลุกแป้ง
- นำปีกไก่ที่หมักไว้ออกจากตู้เย็น
- นำปีกไก่แต่ละชิ้นมาคลุกกับแป้งที่เตรียมไว้ ให้แป้งเคลือบปีกไก่จนทั่ว
- เคาะแป้งส่วนเกินออก
ขั้นตอนที่ 4: ทอดไก่
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วมปีกไก่ ใช้ไฟกลาง
- รอจนน้ำมันร้อน (ทดสอบโดยการหย่อนแป้งลงไปเล็กน้อย ถ้าแป้งฟูขึ้นมาทันที แสดงว่าน้ำมันได้ที่แล้ว)
- ค่อยๆ นำปีกไก่ลงทอด ระวังอย่าใส่เยอะเกินไป เพราะจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันลดลง
- ทอดจนปีกไก่เป็นสีเหลืองทองสวยงาม และสุกทั่วถึง ใช้เวลาประมาณ 8-10 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดของปีกไก่)
- ตักขึ้นพักบนตะแกรง เพื่อสะเด็ดน้ำมัน
ขั้นตอนที่ 5: ทอดซ้ำ (เคล็ดลับความกรอบ)
- หลังจากพักไก่ไว้ประมาณ 5-10 นาที ให้ตั้งกระทะอีกครั้ง ใช้น้ำมันเดิม
- เร่งไฟขึ้นเล็กน้อย นำปีกไก่ลงทอดซ้ำอีกครั้ง ประมาณ 1-2 นาที
- สังเกตว่าปีกไก่มีสีเข้มขึ้น และหนังกรอบขึ้น
- ตักขึ้นพักบนตะแกรงอีกครั้ง
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น
- การเลือกปีกไก่: เลือกปีกกลางไก่ที่มีขนาดเท่าๆ กัน จะทำให้สุกพร้อมกัน
- การหมักไก่: การหมักข้ามคืนจะช่วยให้รสชาติซึมเข้าเนื้อไก่ได้ดีกว่า
- อุณหภูมิน้ำมัน: ควบคุมอุณหภูมิน้ำมันให้คงที่ จะช่วยให้ไก่ทอดสุกทั่วถึงและหนังกรอบ
- การทอดซ้ำ: เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ ปีกไก่ทอดหนังกรอบ ได้นานยิ่งขึ้น
- การจัดเสิร์ฟ: เสิร์ฟพร้อมกับซอสที่คุณชื่นชอบ เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หรือน้ำจิ้มไก่
ข้อควรระวัง
- ระวังน้ำมันกระเด็นขณะทอดไก่
- ไม่ควรทอดไก่ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันลดลง และไก่จะไม่กรอบ
- ควรพักไก่บนตะแกรง เพื่อให้น้ำมันส่วนเกินไหลออก
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างคะกับสูตร ปีกไก่ทอดหนังกรอบ ทำเองง่ายๆ ที่บ้าน หวังว่าเพื่อนๆ จะลองนำไปทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าอร่อยถูกใจทั้งครอบครัวแน่นอน! อย่าลืมแชร์สูตรนี้ให้เพื่อนๆ ของคุณด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ บ๊ายบาย!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ทำไมทอดไก่แล้วหนังไม่กรอบ?
สาเหตุที่ทอดไก่แล้วหนังไม่กรอบอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น อุณหภูมิน้ำมันไม่ถึง การใส่ไก่ลงไปทอดมากเกินไป หรือไม่ได้ทอดซ้ำ แนะนำให้ลองตรวจสอบขั้นตอนการทำอีกครั้ง และทำตามเคล็ดลับที่แนะนำไว้ในบทความค่ะ
สามารถใช้ส่วนอื่นของไก่แทนปีกกลางได้ไหม?
ได้ค่ะ แต่ระยะเวลาในการทอดอาจแตกต่างกันไป ควรสังเกตสีและเนื้อไก่ให้สุกทั่วถึง
ถ้าไม่มีแป้งข้าวโพด สามารถใช้อะไรแทนได้บ้าง?
สามารถใช้แป้งมันสำปะหลังแทนได้ค่ะ
สามารถปรับรสชาติการหมักได้ไหม?
ได้แน่นอนค่ะ ปรับรสชาติได้ตามความชอบเลยค่ะ ใครชอบเผ็ดก็เพิ่มพริกป่น ใครชอบหวานก็เพิ่มน้ำตาลได้เลยค่ะ