แจกสูตร นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ หวานหอมชื่นใจ ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน!
สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เราจะมาแจกสูตรเครื่องดื่มคลายร้อนสุดฮิต ที่ใครๆ ก็เลิฟ นั่นก็คือ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ นั่นเอง! บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่ายมาก แถมอร่อยสดชื่นสุดๆ เหมาะสำหรับทำดื่มเองที่บ้าน หรือจะทำขายสร้างรายได้ก็ปังแน่นอนค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย!
ทำไมต้อง นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ ถึงฮิตฮอตขนาดนี้? ก็เพราะว่าเครื่องดื่มแก้วนี้มีความลงตัวของรสชาติอย่างน่าทึ่ง! ความหอมหวานของนมชมพู ผสมกับความสดชื่นของลิ้นจี่ และความหนึบหนับของไข่มุก ทำให้ทุกครั้งที่ดื่มรู้สึกฟินสุดๆ แถมสีชมพูหวานๆ ยังช่วยเพิ่มความน่ารักน่าทานอีกด้วยค่ะ
ส่วนผสม นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่
มาเตรียมส่วนผสมสำหรับทำ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ แสนอร่อยกันเลยค่ะ รับรองว่าหาซื้อง่าย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย!
ส่วนผสมสำหรับนมชมพู:
- นมสดรสจืด: 250 มล.
- น้ำหวานสีแดง (เฮลส์บลูบอย): 30-45 มล. (ปรับความหวานตามชอบ)
- นมข้นหวาน: 15-30 มล. (ปรับความหวานตามชอบ)
- น้ำแข็ง: ตามชอบ
ส่วนผสมสำหรับไข่มุก:
- ไข่มุกดิบ: 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า: สำหรับต้มไข่มุก
- น้ำตาลทรายแดง: 2-3 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
ส่วนผสมสำหรับลิ้นจี่:
- ลิ้นจี่กระป๋อง: 1 กระป๋อง (เลือกลิ้นจี่ในน้ำเชื่อม)
- น้ำเชื่อมลิ้นจี่: จากในกระป๋อง
วิธีทำ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่
มาถึงขั้นตอนการทำ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ กันแล้วค่ะ บอกเลยว่าง่ายมากๆ ตามมาดูกันเลย!
ขั้นตอนการต้มไข่มุก:
- ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า รอจนน้ำเดือดพล่าน
- ใส่ไข่มุกดิบ ลงไปต้ม คนเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ไข่มุกติดกัน
- ต้มจนไข่มุกลอยขึ้นมา แล้วต้มต่ออีกประมาณ 15-20 นาที หรือจนไข่มุกสุกใส
- ปิดไฟ แล้วปิดฝาหม้ออบไข่มุกต่ออีก 10 นาที
- ตักไข่มุกขึ้นมาพักในน้ำเย็นจัด เพื่อให้ไข่มุกมีความหนึบหนับ
- ทำน้ำเชื่อมโดยนำน้ำตาลทรายแดง ผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย ตั้งไฟเคี่ยวจนน้ำตาลละลายและข้นขึ้นเล็กน้อย
- นำไข่มุกที่พักไว้มาคลุกเคล้ากับน้ำเชื่อม
ขั้นตอนการทำนมชมพู:
- เตรียมนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวานสีแดง
- ผสมนมข้นหวาน และน้ำหวานสีแดง คนให้เข้ากัน
- เทนมสดลงในแก้ว ตามด้วยส่วนผสมนมชมพูที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน
- เติมน้ำแข็งตามชอบ
ขั้นตอนการจัดเสิร์ฟ:
- ตักไข่มุกใส่แก้ว
- ใส่เนื้อลิ้นจี่ลงไป
- เทนมชมพูที่เตรียมไว้ลงในแก้ว
- ราดด้วยน้ำเชื่อมลิ้นจี่เล็กน้อย
- ตกแต่งด้วยลิ้นจี่ผ่าครึ่ง หรือใบมิ้นท์ เพื่อความสวยงาม (Optional)
- พร้อมเสิร์ฟ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ แสนอร่อย!
เคล็ดลับความอร่อย
เพื่อให้ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ ของคุณอร่อยยิ่งขึ้น ลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ดูนะคะ!
- ปรับความหวานตามชอบ: ปริมาณน้ำหวานสีแดงและนมข้นหวาน สามารถปรับได้ตามความชอบของแต่ละคน ใครชอบหวานน้อยก็ลดปริมาณลงได้ค่ะ
- ใช้ลิ้นจี่คุณภาพดี: เลือกลิ้นจี่กระป๋องที่มีคุณภาพดี เนื้อลิ้นจี่จะมีความหอมหวานและไม่เละ
- ต้มไข่มุกให้ได้ที่: การต้มไข่มุกให้สุกพอดี จะทำให้ไข่มุกมีความหนึบหนับ ไม่แข็งหรือเละจนเกินไป
- แช่เย็นแก้วก่อนเสิร์ฟ: การแช่เย็นแก้วก่อนเสิร์ฟ จะช่วยให้เครื่องดื่มเย็นสดชื่นมากยิ่งขึ้น
สูตรนี้ดัดแปลงได้หลากหลาย
นอกจากสูตรที่เราแนะนำไปแล้ว คุณยังสามารถดัดแปลงสูตร นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ ได้หลากหลายตามความชอบเลยค่ะ เช่น:
- เพิ่มท็อปปิ้งอื่นๆ: ลองเพิ่มท็อปปิ้งอื่นๆ ที่คุณชอบ เช่น วิปครีม, เยลลี่, หรือเฉาก๊วย
- เปลี่ยนรสชาติ: ลองเปลี่ยนจากลิ้นจี่ เป็นผลไม้อื่นๆ เช่น สตรอว์เบอร์รี, กีวี, หรือมะม่วง
- ทำเป็นนมชมพูเย็น: หากไม่ชอบใส่น้ำแข็ง สามารถทำเป็นนมชมพูเย็น โดยแช่ส่วนผสมทั้งหมดในตู้เย็นก่อนนำมาผสมกัน
ทำ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ ขายสร้างรายได้
ถ้าคุณทำ นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ ได้อร่อยถูกใจแล้ว ลองทำขายสร้างรายได้เสริมดูสิคะ! บอกเลยว่าเมนูนี้ขายดีแน่นอน เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ใครๆ ก็ชอบ แถมต้นทุนไม่สูง กำไรดีอีกด้วย!
เคล็ดลับการขาย:
- ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง: เลือกทำเลขายที่คนพลุกพล่าน เช่น หน้าโรงเรียน, ตลาด, หรือออฟฟิศ
- ตกแต่งร้านให้น่าสนใจ: ตกแต่งร้านให้สวยงาม สะอาดตา เพื่อดึงดูดลูกค้า
- โปรโมชั่นดึงดูดใจ: จัดโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ซื้อ 2 แถม 1, ลดราคาพิเศษ, หรือสะสมแต้ม
- บริการด้วยใจ: บริการลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส และใส่ใจในทุกรายละเอียด
- สร้างความแตกต่าง: สร้างความแตกต่างจากร้านอื่นๆ โดยการเพิ่มท็อปปิ้งพิเศษ หรือมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ที่น่าสนใจ
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับสูตร นมชมพูไข่มุกลิ้นจี่ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้? หวังว่าทุกคนจะลองทำตามกันดูนะคะ รับรองว่าอร่อยสดชื่นคลายร้อนได้อย่างแน่นอน! และถ้าใครอยากลองทำเมนูอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมาย สามารถเข้าไปดูได้ที่ CookingHub เลยค่ะ! หรือถ้าอยากดูคลิปสอนทำอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ก็เข้าไปดูได้ที่ YouTube ได้เลยนะคะ
อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ ให้กำลังใจเราด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า บ๊ายบาย!