ทาร์ตสังขยาใบเตย เมนูคาเฟ่ยอดฮิต

ทาร์ตสังขยาใบเตย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการนั่งดื่มกาแฟในคาเฟ่ คุณต้องเคยเห็นเมนูหวานสไตล์ฟิวชั่นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ นั่นคือ ทาร์ตสังขยาใบเตย ที่ผสมผสานระหว่างความกรอบนุ่มของเปลือกทาร์ตสไตล์ตะวันตกกับความหอมหวานของสังขยาใบเตยแบบไทยๆ

ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่การรวมเอกลักษณ์สองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เปลือกทาร์ตที่กรอบแต่ไม่แห้งแข็งจับคู่กับไส้สังขยาที่มีความเนียนละมุนและหอมกลิ่นใบเตยอันเป็นเอกลักษณ์

นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว เมนูนี้ยังเหมาะสำหรับทั้งร้านคาเฟ่ที่ต้องการเสิร์ฟของหวานที่มีจุดขาย และสำหรับคนที่ชอบทำขนมเองที่บ้าน การทำทาร์ตสังขยาใบเตยไม่ยากเกินไปแม้สำหรับมือใหม่

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทาร์ตสังขยาใบเตยอย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา วัตถุดิบสำคัญ ไปจนถึงเทคนิคการทำให้สำเร็จ ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด ก็สามารถทำเมนูนี้ได้อย่างแน่นอน

ประเด็นสำคัญ

  • ทาร์ตสังขยาใบเตยเป็นเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานระหว่างขนมไทยและตะวันตก
  • ได้รับความนิยมสูงในร้านคาเฟ่ทั่วประเทศไทย
  • มีรสชาติหอมหวานจากใบเตยและความกรอบนุ่มของเปลือกทาร์ต
  • เหมาะสำหรับทั้งการขายในร้านคาเฟ่และการทำรับประทานเองที่บ้าน
  • สามารถทำได้ไม่ยากแม้สำหรับผู้ที่เริ่มหัดทำขนม
  • เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานสไตล์ไทยร่วมสมัย

ประวัติและความนิยมของทาร์ตสังขยาใบเตย

จุดเริ่มต้นของความนิยมทาร์ตสังขยาใบเตยมาจากการผสมผสานระหว่างขนมไทยดั้งเดิมกับขนมอบตะวันตก สังขยาใบเตยมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมการทำขนมของชาวโปรตุเกสที่เข้ามาติดต่อค้าขาย

ในอดีตสังขยามักนำมาเสิร์ฟกับขนมปังนึ่งหรือฟักทองนึ่ง เป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมทั้งในราชสำนักและบ้านเรือนทั่วไป ความคุ้นเคยกับรสชาตินี้ทำให้สังขยาใบเตยเป็นที่รักของคนไทยมาช้านาน

ความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเมื่อมีการนำมาผสมผสานกับขนมอบสไตล์ตะวันตก โดยเฉพาะทาร์ตและคุกกี้ที่มีเนื้อสัมผัสแตกต่างจากขนมไทยดั้งเดิม การรวมกันนี้สร้างประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจ

ทาร์ตสังขยาใบเตยเริ่มได้รับความนิยมในร้านคาเฟ่และเบเกอรี่ทั่วกรุงเทพฯ ราวปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา การผสมผสานระหว่างรสชาติไทยดั้งเดิมกับรูปแบบสมัยใหม่ ทำให้เมนูนี้โดดเด่นและน่าจดจำ

เหตุผลที่ได้รับความนิยมสูงเพราะมีรสชาติที่คุ้นเคยแต่การนำเสนอทันสมัย สีเขียวอ่อนจากใบเตยตามธรรมชาติทำให้ดูสวยงามและดึงดูดสายตา เหมาะกับการถ่ายภาพโพสต์บนโซเชียลมีเดีย

ปัจจุบันเมนูนี้กลายเป็นไฮไลต์ในร้านคาเฟ่ทั่วประเทศ หลายแห่งพัฒนาสูตรเพิ่มความหลากหลาย เช่น การเพิ่มท็อปปิ้งหรือไส้พิเศษ ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น

วัตถุดิบและอุปกรณ์สำหรับการทำทาร์ตสังขยาใบเตย

การเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมคือขั้นตอนแรกที่สำคัญสำหรับการทำทาร์ตสังขยาใบเตยให้ออกมาสมบูรณ์แบบ การเลือกสิ่งของให้ถูกต้องจะช่วยให้การทำงานราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

A neatly arranged still life showcasing the key ingredients for crafting the perfect pandan custard tart. In the foreground, a pile of fresh pandan leaves, their emerald hues shimmering under the warm, diffused lighting. Alongside, delicate egg yolks nestle in a small ceramic bowl, their rich, golden color a precursor to the custard's velvety texture. In the middle ground, a bowl of fragrant coconut milk and a sifter of all-purpose flour hint at the harmonious blend of flavors to come. In the background, a flaky, golden tart shell waits patiently, ready to be filled with the aromatic pandan custard. The overall mood is one of culinary anticipation, an invitation to indulge in the beloved Thai dessert.

สำหรับส่วนไส้สังขยาใบเตยจากสูตรของ คุณเอ๋ ชวนชิม ใช้ไข่ไก่ 2 ฟองกับกะทิ 1 ¼ ถ้วยเป็นหลัก ผสมน้ำตาล 150 กรัมเพื่อความหวานตามชอบ ใส่ส่วนผสมเหล่านี้ในชามทนความร้อน

เพิ่มนมข้นจืด 4 ช้อนโต๊ะและน้ำใบเตยเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันดี ปรุงด้วยวิธีตุ๋นน้ำโดยใช้ความร้อนอ่อนๆ คนอย่างต่อเนื่องจนไส้ข้นและเนียนละมุน

เปลือกทาร์ตควรใช้แป้งอเนกประสงค์กับเนยสดเป็นหลัก ผสมน้ำตาลและเกลือเล็กน้อยเพื่อความสมดุล ใส่ไข่แดงช่วยให้เนื้อสัมผัสดี คล้ายกับเนื้อ cookies แต่มีความหนาและแข็งแรงกว่า

ใบเตยสดหรือน้ำใบเตยเข้มข้นให้สีเขียวธรรมชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว กะทิคุณภาพดีช่วยให้สังขยาหอมมันและเนียนนุ่ม เลือกกะทิที่มีความข้นพอเหมาะไม่เจือจางเกินไป

อุปกรณ์ที่จำเป็นได้แก่พิมพ์ทาร์ต ชามผสมทนความร้อน และภาชนะสำหรับตุ๋นน้ำ ใช้ไม้พายหรือช้อนสำหรับคนส่วนผสมให้เข้ากัน ตะแกรงสำหรับพักขนมหลังอบสุก

ควรมีเครื่องชั่งน้ำหนักที่แม่นยำเพื่อวัดสัดส่วนที่ถูกต้อง การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีจะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและความสำเร็จของทาร์ตสังขยาใบเตย

ขั้นตอนการทำทาร์ตสังขยาใบเตยอย่างละเอียด

หลังจากเตรียมวัตถุดิบครบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างเปลือกทาร์ตกรอบและไส้สังขยาหอมเนียน เริ่มจากส่วนฐานก่อนเพื่อความมั่นคง

ทำแป้งเปลือกทาร์ตโดยผสมแป้งกับเนยเย็นจนได้เนื้อคล้ายเม็ดเล็กๆ คล้ายกับเนื้อแป้งสำหรับทำ cookies จากนั้นเติมน้ำตาล เกลือ และไข่แดงลงไป นวดต่อจนแป้งรวมตัวเป็นก้อนเนียนสวย

นำแป้งที่ได้ห่อพลาสติกแล้วพักในตู้เย็นสัก 30 นาที การพักแป้งช่วยให้คลายตัวและรีดง่ายขึ้นมากเมื่อนำออกมา

เมื่อแป้งเย็นได้ที่แล้ว นำมารีดให้บางพอเหมาะแล้วปูลงในพิมพ์ทาร์ต ตัดส่วนเกินออกใช้ส้อมจิ้มเบาที่ก้นพิมพ์เพื่อกันแป้งบวมเวลาอบ

นำเปลือกทาร์ตไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งสุกเหลืองกรอบ พักไว้ให้เย็นสนิท

A detailed, step-by-step scene of making a fragrant pandan custard tart. In the foreground, carefully arranged ingredients including fresh pandan leaves, eggs, condensed milk, and a golden-brown tart crust. In the middle ground, a baker's hands meticulously mixing the custard filling. Behind them, a clean, modern kitchen counter with natural light streaming in, accentuating the vibrant green and creamy textures. The scene conveys a sense of precision, care, and the enticing aromas of this beloved Thai café dessert.

ระหว่างที่รอเปลือกทาร์ตเย็น มาทำไส้สังขยาใบเตยกัน ตามสูตรของ Phol Tantasathien เริ่มจากตีไข่ไก่ในชามทนความร้อนกับน้ำตาลและกะทิ

วางชามบนหม้อน้ำเดือด ใช้วิธีตุ๋นน้ำร้อน คนส่วนผสมอย่างต่อเนื่องและเบามือ ด้วยไม้พายจนเริ่มข้นขึ้น

เมื่อไส้เริ่มหนา ให้เติมนมข้นจืดและน้ำใบเตยเข้มข้นลงไป คนต่อไปเรื่อยๆ จนสังขยาข้นเนียนไม่มีก้อนไข่ ความลับคือใช้ไฟอ่อนและคนไม่หยุด

เมื่อสังขยาพร้อมแล้ว ยกออกจากเตา พักให้อุ่นเล็กน้อยแล้วตักใส่ลงในเปลือกทาร์ตที่อบสุกแล้ว

ตกแต่งหน้าด้วยใบเตยสดหรือมะพร้าวขูดเพื่อความสวยงาม นำเข้าตู้เย็นพักอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟให้ไส้เซ็ตตัวได้ที่

จบท้ายความด้วยความสุขในการชิมผลงานของคุณเอง

การได้ลิ้มรสผลงานการทำขนมด้วยตัวเองคือรางวัลที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับความพยายามทั้งหมด เมื่อคุณชิมทาร์ตสังขยาใบเตยที่ทำสำเร็จ ความภาคภูมิใจจะท่วมท้นใจอย่างบอกไม่ถูก

ทาร์ตสังขยาใบเตยที่สมบูรณ์แบบจะมีเปลือกกรอบนุ่มคู่กับไส้ที่เนียนละมุน กลิ่นหอมของใบเตยจะอบอวลน่าหลงใหล เสิร์ฟเมื่อเย็นสนิทเพื่อเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด และเก็บในตู้เย็นได้ 3-4 วัน

เมนูนี้เหมาะเป็นของว่างยามบ่ายคู่กับชาร้อนหรือกาแฟ หรือเป็นของฝากพิเศษสำหรับคนสำคัญ อย่าลืมถ่ายภาพแชร์ความสำเร็จให้เพื่อนๆ ได้ชม

หากครั้งแรกยังไม่สมบูรณ์แบบ อย่าท้อใจ! การทำขนมต้องการการฝึกฝน ลองปรับสูตรตามความชอบของคุณ และขอให้สนุกกับการสร้างสรรค์ทาร์ตสังขยาใบเตยด้วยมือตัวเอง

หัวข้อแนะนำ

สูตรอาหารยอดนิยม

หมวดหมู่ยอดนิยม

Scroll to Top